วัดสามพระยา
ในการบูรณปฏิสังขรณ์นี้ สันนิษฐานว่า น่าจะได้รับพระบรมราชานุมัติ หรือโดยพระบรมราชานุญาต เพราะปรากฏว่า ได้มีการขยายขอบเขตของวัดกินที่บ้านเรือนของราษฎรทั้งทิศตะวันออกและทิศตะวันตก คือทางด้านทิศตะวันออกขยายจากแนวข้างวิหารบัดนี้ออกไปถึงคูวัด (โรงเรียนตึกสุหัทรังสรรค์) ทางด้านทิศตะวันตกขยายจากแนวมุขตะวันออกของศาลาการเปรียญบัดนี้ จนจดแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์เสร็จสมบูรณ์แล้ว ต่อมาท่านพระยาทั้งสามที่ได้กล่าวนานมาแล้วนั้น ได้น้อมเกล้าฯ ถวายเป็นวัดหลวงในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระองค์พระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “วัดสามพระยาวรวิหาร”
ครั้นกาลต่อมาในสมัยพระธรรมสมาจาร (ศิลา ร.๕ พ.ศ. ๒๔๓๓) และพระเทพเมธี (ครุฑ พ.ศ. ๒๔๓๖-๒๔๕๖) เป็นเจ้าอาวาส ได้มีการก่อสร้างและบูรณปฏิสังขรณ์ โดยพระเกษตรรักษา (บุญชู) น้องชายท่านพระยาทั้งสาม ได้สร้างเสนาสนะเพิ่มเติมขึ้นมาบ้างและได้บูรณปฏิสังขรณ์โดยทั่วไป ดังมีหลักฐานดังนี้ คือ
นายนุช บุตรพระยาเกษตรรักษา (บุญชู) ได้ปฏิสังขรณ์ศาลาการเปรียญ
นายสด ได้สร้างหอสวดมนตร์ขึ้นหลังหนึ่ง
หลวงวิจารณ์ (ด้วง) ได้สร้างพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์
นางจันทร์ภรรยาหลวงวิจารณ์ ได้สร้างพระพุทธรูปปางไสยาสน์
พระโยธาธิราชและนางโยธาธิราช ได้สร้างพระปรางค์คู่
นอกจากนี้ ยังปรากฏว่าใน พ.ศ. ๒๔๙๙ พระเทพเมธี ขณะดำรงสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชกวีได้ปฏิสังขรณ์กุฎี ๑ หลัง ๖ ห้อง และได้ว่าจ้างคนให้ถางหญ้าในวัด และได้ขอพระราชทานถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
สามพระยา ๑ สาย กว้าง ๑ วา ยาว ๕ เส้น และได้ขอพระราชทานถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระเทพมุนี พร้อมด้วยทายกทายิกา ปฏิสังขรณ์วิหารเก่าทั้งหลัง และหอระฆัง
นางสาวเจียม (ป้า) นางเลื่อน (หลาน) ได้สร้างหลังคาพระไสยาสน์มีรั้วรอบ และสร้างหลังคา
พระป่าเลไลยก์
พระยาอมเรศร์สมบัติ สร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม ๑ หลัง
คุณหญิงอนันตนิธิกร (น้อม วรรธโนทัย) ถวายเรือนหนึ่งหลังเป็นโรงเรียนตอนหนึ่ง เป็นที่พักของภิกษุสามเณรตอนหนึ่ง
นางแส สร้างห้องน้ำ ๑ หลัง
พระเทพราชแสนยา (แม้น บุณยเกศานนท์) สร้างกุฎีสงฆ์ ๑ หลัง
พระเทพมุนี สร้างกุฎีสงฆ์ ๑ หลัง
พระครูวินัยธร (รศ) ปฏิสังขรณ์กุฎีสงฆ์ ๑ หลัง
นางศรีราชสงคราม ปฏิสังขรณ์กุฎีสงฆ์ ๑ หลัง
พระเทพราชแสนยา (แม้น บุณยเกศานนท์) ปฏิสังขรณ์ศาลาการเปรียญ พร้อมทั้งศาลาขวาง
นายจ่าง ปฏิสังขรณ์ศาลาดิน ๑ หลัง
นายอ่วม ปฏิสังขรณ์กุฎีสงฆ์ ๒ หลัง
พระเทพราแสนยา (แม้น บุณยเกศานนท์) สร้างเจดีย์ ๑ องค์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น